เว็บบอร์ด
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ซุนนะฮให้ถือศิลอดในเดือนรอญับหรือไม่

Go down

ซุนนะฮให้ถือศิลอดในเดือนรอญับหรือไม่ Empty ซุนนะฮให้ถือศิลอดในเดือนรอญับหรือไม่

ตั้งหัวข้อ by Profile Wed Apr 22, 2015 6:22 pm

อธิบายโดย อาจารย์ อารีฟีน แสงวิมาน เรื่อง ซุนนะฮให้ถือศิลอดในเดือนรอญับหรือไม่ ขออัลเลาะห์ ( ซ.บ. ) ทรงตอบแทนท่านอาจารย์ในการให้ความรู้ครับ อ่านให้ดีนะครับ
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
กรณีการถือศีลอดเดือนรอญับ
กรณีการถือศีลอดเดือนรอญับนั้น ปวงปราชญ์มีทัศนะที่แตกต่างกัน
นักปราชญ์ฟิกห์ส่วนมาก จากมัซฮับหะนะฟีย์ , มัซฮับมาลิกีย์ , และมัซฮับชาฟิอีย์ , และทัศนะคำกล่าวส่วนหนึ่งจากมัซฮับฮัมบาลีย์ มีทัศนะว่า สุนัตให้ทำการถือศีลอดในเดือนรอญับทั้งเดือน
ส่วนมัซฮับฮัมบาลีย์ มีทัศนะว่า มักโระฮ์ (อนุญาตให้กระทำได้แต่ไม่ทำดีกว่า) ในการถือศีลอดเดือนรอญับทั้งเดือนเป็นเอกเทศน์โดยไม่ถือศีลอดสุนัตเดือนอื่น ๆ และหลักการมักโระฮ์นี้จะหมดไปตามทัศนะของพวกเขา ด้วยการไม่ถือศีลอดหนึ่งวันหรือสองวันของเดือนรอญับหรือถือศีลอดเดือนอื่น ๆ ด้วย
จากทัศนะปวงปราชญ์มัซฮับทั้งสี่นั้น ไม่มีมัซฮับใดที่ฮุกุ่มว่าการถือศีลอดเดือนรอญับทั้งเดือนเป็นสิ่งที่บิดอะฮ์หะรอมแต่มากสุดแค่มักโระฮ์ ดังนั้นการฮุกุ่มว่าการถือศีลอดทั้งเดือนรอญับเป็นบิดอะฮ์หะรอม ถือว่าเป็นการกำหนดฮุกุ่มศาสนาขึ้นเองโดยไม่มีหลักฐานอัลกุรอานและซุนนะฮ์มาระบุ
หลักฐานของทัศนะนักปราชญ์ส่วนมาก ดังนี้
1. ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุ หะญัร อัลฮัยตะมีย์ กล่าวไว้ในหนังสือ อัลฟะตาวา อัลฟิกฮียะฮ์ อัลก๊อบรอ ของท่านว่า "ท่านได้มีความเห็นสอดคล้องกับฟัตวาของท่าน อิมาม อิซซุดดีน บิน อับดุสสลาม คือท่านได้ถูกถามเกี่ยวกับหลักการที่ถ่ายทอดจากนักหะดิษบางส่วนที่ห้ามการถือศีลอดเดือนรอญับและให้ความสำคัญกับเดือนร่อญับ ว่า ใช้ได้หรือไม่?ในการบนบานว่าจะถือศีลอดตลอดทั้งเดือนร่อญับ ท่านอิมามอิซซุดดีน บิน อับดุสสลาม ตอบว่า การบนบานถือศีลอดของเขานั้นถือว่าใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา และบุคคลที่ห้ามจากการถือศีลอดของเขานั้น ถือว่าโง่เขลาจากหลักฐานฮุกุ่มต่าง ๆ ของศาสนา และการถือศีลอดของเขาจะถูกห้ามได้อย่างไร ในเมื่อบรรดานักปราชญ์ได้บันทึกหลักการของชะรีอะฮ์ไว้แล้วโดยไม่มีนักปราชญ์คนใดนำการถือศีลอดของเขา(ผู้ที่บนบานถือศีลอดในเดือนรอญับ)เข้าไปอยู่ภายใต้หลักการที่มักโระฮ์ แต่ในทางตรงกันข้าม การถือศีลอดของเขากลับเป็นการสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา เพราะมีบรรดาหะดิษซอฮิห์ได้ส่งเสริมให้ทำการถือศีลอด เช่น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า ทุกการปฏิบัติอะมัลของลูกหลานอาดัมนั้นมีให้สำหรับเขา นอกจากการถือศีลอด (ที่มีให้สำหรับฉัน)" และคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมความว่า "กลิ่นปากของผู้ถือศีลอดนั้น ย่อมหอม ณ ที่อัลเลาะฮ์ ยิ่งกว่ากลิ่นชะมดเชียง" และคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลม ความว่า "การถือศีลอดที่ดีเลิศคือการถือศีลอดของพี่น้องของฉัน คือดาวูด ซึ่งเขาได้ถือศีลอดหนึ่งและไม่ถือศีลอดหนึ่งวัน(คือถือศีลอดวันเว้นวัน)" และการถือศีลอดของท่านนบีดาวูดนั้นไม่ถูกจำกัดยกเว้นในเดือนรอญับด้วย" ดู เล่ม 2 หน้า 53
ท่านอัชเชากานีย์ กล่าวว่า "แท้จริงได้มีหะดิษที่บ่งชี้ถึงบทบัญญัติการถือศีลอดของเขาตามนัยยะที่ครอบคลุมและเจาะจง สำหรับหะดิษที่มีความหมายครอบคลุมคือบรรดาหะดิษที่ส่งเสริมในการถือศีลอดในบรรดาเดือนอัลฮุรุม (หมายถึงเดือนที่ต้องห้ามจากการทำสงครามคือเดือน ร่อญับ , ซุลเกาะอฺดะฮ์ , ซุลฮิจญะฮ์ , และอัลมุฮัรร๊อม) และการส่งเสริมถือศีลอดบรรดาเดือนอัลฮุรุมนั้น เป็นมติของปวงปราชญ์ และเช่นเดียวกันกับสิ่งดังกล่าว คือมีบรรดาหะดิษที่ได้วางบทบัญญัติในเรื่องการถือศีลอดในรูปแบบกว้าง" ดู นัยลุลเอาฏ๊อร เล่ม 4 หน้า 291
2. อบูดาวูด ได้รายงานจาก มุญีบะฮ์ อัลบาฮิลียะฮ์ จากบิดาหรือน้าชายของนาง ว่า "เขาได้เคยไปหาท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาได้เดินทางไปหาท่านนบี โดยสภาพร่างกายของเขาเปลี่ยนไป ดังนั้น เขากล่าวว่า โอ้ ท่านร่อซูลัลลอฮ์ ท่านไม่รู้จักฉันดอกหรือ ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า ท่านเป็นใคร? เขาตอบว่า ฉันคือ อัลบาฮิลีย์ ที่เคยมาหาท่านในช่วงปีแรก ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า อะไรทำให้(ร่างกายของ)ท่านเปลี่ยนไป ทั้งที่ท่านมีบุคคิกงดงาม เขาตอบว่า ตั้งแต่ฉันจากท่านไป ฉันไม่รับประทานอาหารเลยนอกจากตอนกลางคืนเท่านั้น ดังนั้น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า เหตุใดท่านจึงทรมานตนเอง หลังจากนั้นท่านร่อซุลเลาะฮ์ กล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดในเดือนแห่งความอดทนซิ (คือเดือนรอมะฏอน) และหนึ่งวันของทุก ๆ เดือน เขากล่าวว่า ท่านจงเพิ่มให้แก่ฉันเถิดเพราะฉันยังมีกำลัง ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดสองวัน(ของทุก ๆ เดือน) เขากล่าวว่า ท่านจงเพิ่มแก่ฉันเถิด ท่านนบีกล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดสามวันซิ เขากล่าวว่า ท่านจงเพิ่มแก่ฉันเถิด ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ จึงกล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดเดือนอัลฮุรุม (คือเดือน ร่อญับ , ซุลเกาะอฺดะฮ์ , ซุลฮิจญะฮ์ , และอัลมุฮัรร๊อม) และท่านจงละเว้น(การถือศีลอด) แล้วก็จงถือศีลอดจากเดือนอัลฮุรุมต่อ และท่านจงว่างเว้น(การถือศีลอด) แล้วท่านจงถือศีลอดจากเดือนอัลฮุรุมต่อไป และท่านจงว่างเว้น(การถือศีลอด) และท่านนบีก็ได้ยกนิ้วทั้งสามให้ติดกันหลังจากนั้นท่านก็ปล่อย" ดู เล่ม 2 หน้า 322
ท่านอิบนุมาญะฮ์ ได้รายงานจาก อบีมุญีบะฮ์ อัลบาฮิลี จากบิดาหรือน้าของเขา ความว่า "ฉันได้ไปหาท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วฉันกล่าวว่า โอ้ ศาสนทูตของอัลเลาะฮ์ ฉันคือบุรุษที่เคยมาหาท่านในปีแรก ท่านนบีจึงกล่าวว่า อะไรที่ทำให้ฉันเห็นว่าท่านมีร่างกายซูบผอมไป ฉันตอบว่า โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ฉันไม่เคยรับประทานอาหารในตอนกลางวันเลย นอกจากฉันจะรับประทานในตอนกลางคืน ท่านนบีได้กล่าวว่า ใครที่ใช้ให้ท่านทรมารตัวเอง ฉันกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลัลลอฮ์ แท้จริงฉันมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านนบีกล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดในเดือนแห่งความอดทน (เดือนร่อมะฏอน)ซิ และถือศีลอดอีกหนึ่งวันหลังจากนั้น ฉันกล่าวว่า แท้จริงฉันยังมีพละกำลัง ท่านนบีกล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดในเดือนแห่งความอดทนและถือศีลอดสองวันหลังจากนั้นซิ ฉันกล่าวว่า แท้จริงฉันยังมีพละกำลังอยู่ ท่านนบีกล่าวว่า ท่านจงถือศีลอดในเดือนแห่งความอดทนและสามวันหลังจากนั้นซิ และท่านจงถือศีลอดในบรรดาเดือนอัลฮุรุม (ที่ต้องห้ามจากการทำสงครามคือเดือน ร่อญับ , ซุลเกาะอฺดะฮ์ , ซุลฮิจญะฮ์ , และอัลมุฮัรร๊อม)" ดู เล่ม 1 หน้า 554
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "คำกล่าวของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า "ท่านจงถือศีลอดจากบรรดาเดือนอัลฮุรุมและท่านจงละเว้น" คือท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ได้ใช้ให้เขาทิ้งการถือศีลอด(หลังจากได้ถือจากเดือนอัลฮุรุมแล้ว) เพราะจะเป็นความลำบากบนเขาที่ทำการถือศีลอดมาก ๆ เสมือนที่ได้กล่าวไว้ในส่วนแรกของอัลหะดิษ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความลำบากบนเขานั้น ถือว่าการถือศีลอดตลอดทั้งเดือนอัลฮุรุมย่อมเป็นความดีงาม" ดู อัลมัจญ์มั๊วะ เล่ม 6 หน้า 439
ท่านชัยคุลอิสลาม ซะการียา อัลอันซอรีย์ กล่าวว่า "การใช้ให้ผู้ร่วมสนทนา(คืออัลบาฮิลีย์) ทำการละเว้นการถือศีลอดนั้น เพราะว่าการถือศีลอดมาก ๆ จะทำให้มีความลำบากบนเขาเสมือนที่หะดิษได้บอกไว้อย่างชัดเจน สำหรับผู้ที่ไม่มีความลำบากบนเขานั้น การถือศีลอดตลอดเดือนอัลฮุรุม ย่อมเป็นความดีงามสำหรับเขา" ดู หนังสืออัสนัลมะฏอลิบ เล่ม 1 หน้า 433
ท่านอิบนุหะญัร กล่าวว่า "บรรดาปวงปราชญ์กล่าวว่า การที่ท่านนบีใช้ให้ว่างเว้นการถือศีลอดนั้น เพราะการถือศีลอดมาก ๆ จะทำให้เกิดความลำบากบนเขา เสมือนที่ได้กล่าวไว้ในหะดิษแรก สำหรับผู้ที่ไม่มีความลำบากบนเขานั้น การถือศีลอดตลอดเดือนอัลฮุรุม ย่อมเป็นความประเสริฐ ดังนั้น ท่านจงพิจารณาการสั่งใช้ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้ทำการถือศีลอดในบรรดาเดือนอัลฮุรุมในหะดิษสายรายงานแรก และได้ใช้ให้ถือศีลอดในเดือนอัลฮุรุมในหะดิษสายรายงานที่สอง ท่านจะพบว่าหะดิษได้ระบุถึงการใช้ให้ทำการถือศีลอดในเดือนรอญับหรือถือศีลอดจากส่วนหนึ่งของเดือนรอญับ เพราะเดือนรอญับนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเดือนอัลฮุรุม ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นเดือนที่มีความประเสริฐยิ่ง"(รองจากเดือนอัลมุฮัรร๊อม) ดู อัลฟะตาวา อัลฟิกฮียะฮ์ อัลก๊อบรอ เล่ม 2 หน้า 53
ดังนั้น หลักฐานหะดิษเหล่านี้จึงเพียงพอแล้วสำหรับผู้ปราถนาที่จะทำความดีงามในการถือศีลอดเดือนร่อญับ
สำหรับการถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน
ท่านอัตติรมีซีย์ ได้รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่าท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"เมื่อเข้าสู่ครึ่งที่สองของเดือนชะอฺบาน ท่านทั้งหลายอย่าถือศีลอด" ดู หะดิษที่ 738 ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ซอฮิห์
ท่านอิบนุมาญะฮ์ รายงานว่า
"เมื่อถึงครึ่งหนึ่งของเดือนชะอฺบานแล้ว จะไม่มีการถือศีลอด จนกว่าจะเข้าสู่รอมะฏอน" ดู หะดิษที่ 1651
แต่จะไม่ห้ามการถือศีลอดในวันที่สงสัย(ว่าเข้าเดือนรอมะฏอนแล้วหรือยัง) และไม่ห้ามการถือศีลอดในครึ่งที่สองของเดือนชะอฺบาน เมื่อมันไปตรงกับวันที่ผู้ถือศีลอดได้ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ หรือเขาได้ถือศีลอดต่อเนื่องกันมาจนเข้าสู่ครึ่งที่สองของเดือนชะอฺบาน

ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ รายงานจากท่าน ร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมความว่า
"ท่านทั้งหลายอย่าถือศีลอดก่อนเข้าสู่รอมะฏอนหนึ่งวันหรือสองวัน นอกจากผู้ที่ได้ถือศีลอดเป็นประจำ ก็ให้เขาถือศีลอดเถิด" รายงานโดย บุคอรีและมุสลิม

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ



https://www.facebook.com/deadlineNo.1/posts/1050867178291473


Vitsarut Abdulgordredd Manpae
Profile
Profile
Admin

จำนวนข้อความ : 266
Join date : 25/07/2013

http://abcde555.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ